hh
- Get link
- X
- Other Apps
- จุดหมายที่ 12 -
- อ้ายคนแมน แสนคนห่าม ~
สีหน้าพวกแม่งโคตรกระหายเหล้า!
หลังจากที่พวกสโมฯ และบรรดาคณาจารย์ประชุมกันเรื่องการ รับน้องที่จังหวัดชายทะเลแห่งหนึ่งเสร็จสิ้น ก็ได้ข้อสรุปว่ากิจกรรม รับน้องนอกสถานที่นี้ต้องแล้วแต่ความสมัครใจของปีหนึ่ง ห้ามมีการ บังคับพวกน้องๆ กิจกรรมส่วนใหญ่ยังออกแนวบำเพ็ญประโยชน์ เพื่อสร้างความสามัคคีระหว่างรุ่นพี่กับรุ่นน้อง โดยมีอาจารย์ฝ่ายกิจการ นิสิตไปคุมเข้มถึงสามคน หลังได้ข้อสรุปพวกผมชาวสโมฯ และแก๊ง มาดามก็เฮโลกันไปฉลองหลังประชุมเครียดเกือบสองชั่วโมง
ไอ้โดมกับไอ้พีทหน้าระรื่นทันทีที่เหยียบย่างเข้าร้านเหล้าแถว มหาลัย ส่วนไอ้ฟ้ามันแค่ยักไหล่โดยมีแก๊งมาตามเกาะหลังตามไปเป็น พราน
ลานเล่า (เหล้า) เป็นร้านเหล้ากึ่งผับที่เจ้าของเป็นรุ่นพี่ที่คณะ ซึ่งร่วมหุ้นเปิดกิจการกับแฟน แน่นอนว่าพอพวกเราย่างเท้าเข้าไป เฮียดาร์ฟผู้เป็นเจ้าของร้านก็รีบกุลีกุจอหาโต๊ะให้ทันที
"หายเงียบไปนานเลยนะพวกมึง
"ไม่ได้มานาน ร้านเฮียแม่งโคตรอู้ฟู่"
“เมียกสั่งรีโนเวตร้านใหม่ไ
"สวยดีนะเฮีย"
"ขอบใจเว้ย ว่าแต่พวกมึงจะแดกไรอ่ะ"
เอาเหมือนเดิมเลยเชีย
ไอ้โตมร้องสั่ง
จังหวะที่ทุกคนเข้าสู่โลกส่วนตัวเป็นโอกาสให้ผมได้มองสำรวจ ไปรอบๆ ร้าน ภายในร้านค่อนข้างสลัวๆ มีดนตรีสดให้ฟังเคล้าคลอกับ การจิบเบียร์เย็นๆ
"นั่นมันไอ้แสนนี่"
อารมณ์สุนทรีย์ของผมหยุดชะงักทันที
มันมากับแก๊งนักบอลเหรอวะ"
ผมนั่งนิ่งฟังไอ้โดมกับไอ้พีทคุยกันเงียบๆ และพยายามไม่เป็น
สายตาไปตามปลายนิ้วของมัน
"ชวนมานั่งโต๊ะเดียวกัน
"จะดีเหรอวะ"
มันสองตัวเหลือบมองมาแล้วยิ้มจนผมเผลอเม้มปากแน่น
"ไงไอ้อ้าย"
"อะไร"
ผมทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้
"มึงโอเคปะ ที่กูจะชวนมันมานั่งด้วย
"เกี่ยวอะไรกับกู"
พวกแม่งแสยะยิ้มแล้วเดินไปเรียกแก๊งนักบอลรวมถึงไอ้แสน
ให้มาทางนี้ จังหวะนั้นผมเหลือบตามองไอ้เด็กเปรตที่อยู่ในเสื้อเชิ้ตสีดำ สนิทแถมยังเสยผมเปิดหน้า เล่นเอาแขกผู้หญิงโต๊ะอื่นๆ มองกัน ตาเป็นมัน แต่นั่นไม่สำคัญเพราะประเด็นที่แท้จริงคือข้างกายมันมี อนงค์นางหน้าแฉล้มคนหนึ่งที่ควงแขนมันเหมือนตุ๊กแกเกาะฝาผนัง
'เตรียมใจไว้ให้ดีด้วยนะครับ เพราะผมจะจีบพี่
เหอะ!
มันคงพูดแบบนี้จับคนมาเป็นร้อยแล้วมั้ง ไอ้ชั่วเอ๊ย มึงนี่มันให้ ความหวังคนอื่นแล้วชอบชิงเหรอวะ
โคตรเลว!
ผมกระดกเหล้าเพียวๆ เข้าปากจนไอ้ฟ้าที่นั่งอยู่ใกล้ๆ ถึงกับ
หรี่ตามอง
ไลน์!
SaeNya
ขอไปนั่งที่โต๊ะด้วยได้มั้ยครับ
ผมเหลือบตาดูข้อความในโปรแกรมแชตแล้วในขวับไปยังอีก ฟากหนึ่งของร้าน จึงได้เห็นใบหน้าคมตายที่ยิ้มรอท่าอยู่ เห็นแล้วโคตร หงุดหงิดจนต้องชักสีหน้าใส่
อ้ายคนแมน 2019
เกี่ยวไรกับกู
SaeNya
พี่โกรธอะไรผมป่ะเนี่ย
อ้ายคนแมน2019
เลือกกกกกกกกก
SaeNya
วันนี้แต่งตัวน่ารัก
อ้ายคนแมน2019
เลือกกกกกกกกก
SaeNya
หน้างอ งน่ารัก
อ้ายคนแมน 2019
"โกรธอะไรผม"
"เสือกกก...อ๊ะ"
ผมสะดุ้งโหยงตอนที่สัมผัสได้ถึงลมหายใจแผ่วเบาที่กระซิบ ข้างหูก่อนจะชักสีหน้าเมื่อเห็นมันมายืนยิ้มหน้าระรื่นตัวเป็นๆ อยู่ ด้านหลัง นั่นแหละถึงรู้ว่าแก๊งนักบอลอพยพมารวมกับพวกผม เป็นกลุ่มใหญ่แล้ว ผมมองซ้ายมองขวาไปรอบๆ ตัวมันซึ่งตอนนี้ไร้เงา อนงค์นางนมโตคนนั้น
"มองหาใครครับ"
"สะ"
ยังพูดไม่ทันจบมันดันแย่งตอบ "เลือก"
มันถามเองตอบเองให้เสร็จสรรพจนอยากตบกะโหลกให้ความ แสนรู้ซะที ผมชักสีหน้าทันทีที่มันขยับมาหย่อนกันนั่งที่โซฟาเดียวกัน ผมเลยขยับตัวลุกหนีทันที
"ปล่อย"
"ไกรธอะไร"
ผมเม้มปากแน่นทำเสียงดดในสําคอ ขณะเดียวกันก็ พยายามสะบัดข้อมือซึ่งถูกรวบไว้ ผมกวาดตามองไปรอบๆ หมายจะ ขอความช่วยเหลือจากเพื่อนๆ แต่ดูเหมือนทุกคนจะจงใจเบือนหน้า หนีไปทางอื่น ไม่ก็เป็นคุยกันเองเฉย
มันถามเองตอบเองให้เสร็จสรรพจนอยากตบกะโหลกให้ความ แสนรู้ซะที ผมชักสีหน้าทันทีที่มันขยับมาหย่อนกันนั่งที่โซฟาเดียวกัน ผมเลยขยับตัวลุกหนีทันที
"ปล่อย"
"ไกรธอะไร"
ผมเม้มปากแน่นทำเสียงดดในสําคอ ขณะเดียวกันก็ พยายามสะบัดข้อมือซึ่งถูกรวบไว้ ผมกวาดตามองไปรอบๆ หมายจะ ขอความช่วยเหลือจากเพื่อนๆ แต่ดูเหมือนทุกคนจะจงใจเบือนหน้า หนีไปทางอื่น ไม่ก็เป็นคุยกันเองเฉย
เพื่อนเลย!
"ปล่อยกูเตี๋ยวนี้"
ผมกระซิบเสียงลอดไรฟัน
ไม่ตอบก็ไม่ปล่อย
โครม!
ผมกับมันอข้อมือกันไปมาจนไปกระแทกถังน้ำแข็งล้ม
ระเนระนาด
"ขอโทษนะครับ"
ไอ้แสนหันไปก้มหัวขอโทษขอโพยคนอื่นๆ ที่มองกันตาค้าง ก่อนจะฉุดให้ผมลุกขึ้นแล้วลากออกมาหน้าร้าน
"โอ๊ย"
มันร้องอุทานตอนที่ผมหยิกเอามันเต็มแรง
"พี่อ้าย"
สีหน้าแววตาไอ้แสนบ่งบอกว่ามันกำลังหงุดหงิด มือหนายัง
บีบข้อมือผมจนเจ็บ
"กูเจ็บ"
ผมนิ่วหน้าครางเสียงแผ่ว นั่นทำให้มันชะงักก่อนจะเบาแรงมือ
แต่ก็ยังไม่ยอมปล่อยสักที
"โกรธอะไร"
"ผมจะถามครั้งสุดท้ายนะ ถ้าพี่ไม่ตอบ จะจูบโชว์แต่งหน้าร้าน
นี่แหละ"
"ไอัสด!"
ผมเม้มปากแน่นแล้วมองไปรอบๆ เหมือนหาทางหนีทีไล่ แต่ ตรงที่ยืนอยู่นี่แม่งเลือกเป็นมุมอับ ไม่ค่อยมีคนเดินผ่านไปมาเลย ผม นึกหวั่นเมื่อเห็นสีหน้าเครียดบึงของอีกฝ่าย ใบหน้าคมคายโน้มลงมา อย่างว่องไวคล้ายจะฉกจูบผมหลับตาเบือนหน้าหนีทันที
"มึงแม่งเลว"
ไอ้คนเจ้าชู้ ไอ้กลับกลอก ไอ้คนสับปลับ ขอให้บ้านจึงไฟไหม้ มันทําหน้างง ก่อนจะปล่อยเสียงหัวเราะขาก๊าก
"เดี๋ยวนะ"
"พี่นี่เล่นแรงชะมัด แต่เสียใจด้วยนะครับ ผมอยู่คอนโด ผมยื่นขาหมายจะเตะหน้าแข้งมัน แต่ไอ้ท่านเลือกหลบทัน
"พี่อ้าย
"ทำไมถึงคิดว่าผมเจ้าชู้ล่ะครับ
ผมไม่ตอบ เลือกจะเบือนหน้าหนี ขณะไอ้แสนมันหรี่ตามอ
งก่อนจะยิ้มเผล่เหมือนนึกอะไรดีๆ ออก
"เพื่อนสมัยเรียนน่ะครับ"
ผมแสยะยิ้ม
"มึงเป็นน้องโรงเรียนก" ผมถลึงตาใส่มัน "มึงเรียนชายล้วน
มันยักไหล่ "โอเค เพื่อนเที่ยวเมื่อนานมาแล้ว ตอนนี้ไม่มี
อะไร"
"ไอัสด!"
ผมเม้มปากแน่นแล้วมองไปรอบๆ เหมือนหาทางหนีทีไล่ แต่ ตรงที่ยืนอยู่นี่แม่งเลือกเป็นมุมอับ ไม่ค่อยมีคนเดินผ่านไปมาเลย ผม นึกหวั่นเมื่อเห็นสีหน้าเครียดบึงของอีกฝ่าย ใบหน้าคมคายโน้มลงมา อย่างว่องไวคล้ายจะฉกจูบผมหลับตาเบือนหน้าหนีทันที
"มึงแม่งเลว"
ไอ้คนเจ้าชู้ ไอ้กลับกลอก ไอ้คนสับปลับ ขอให้บ้านจึงไฟไหม้ มันทําหน้างง ก่อนจะปล่อยเสียงหัวเราะขาก๊าก
"เดี๋ยวนะ"
"พี่นี่เล่นแรงชะมัด แต่เสียใจด้วยนะครับ ผมอยู่คอนโด ผมยื่นขาหมายจะเตะหน้าแข้งมัน แต่ไอ้ท่านเลือกหลบทัน
"พี่อ้าย
"ทำไมถึงคิดว่าผมเจ้าชู้ล่ะครับ
ผมไม่ตอบ เลือกจะเบือนหน้าหนี ขณะไอ้แสนมันหรี่ตามอ
งก่อนจะยิ้มเผล่เหมือนนึกอะไรดีๆ ออก
"เพื่อนสมัยเรียนน่ะครับ"
ผมแสยะยิ้ม
"มึงเป็นน้องโรงเรียนก" ผมถลึงตาใส่มัน "มึงเรียนชายล้วน
มันยักไหล่ "โอเค เพื่อนเที่ยวเมื่อนานมาแล้ว ตอนนี้ไม่มี
อะไร"
ตอแหล"
"ผมว่าพี่ งผมนะเนียง
ผมอ้าปากพะงาบๆ
"เปล่า"
แต่อาการมันฟ้องนะ" "
"กูไม่ได้เป็นอะไรกับมึง จะพึงมึงทำซากอะไร
"งั้นก็เป็นเลยป่ะล่ะ"
ผมพยายามสะบัดตัวหนีจากการเกาะกุมของมัน แต่ไอ้แสนมัน กลับเปลี่ยนจากกุมข้อมือมาเป็นกอดผมจากด้านหลังแทน ทําเอาผม ยืนอึ้งเพราะคาดไม่ถึงว่ามันจะกลั
"พี่อ้าย"
"ปล่อยกู"
"ทำยังไงถึงจะเชื่อใจผม" อยู่ๆ หัวใจก็เต้นไม่เป็นจังหวะ "ผม ชอบพี่จริงๆ นะให้โอกาสผมจีบหน่อยสิครับ
ผมก้มหน้างุดๆ ตั้งแต่เกิดมาเพิ่งจะเคยใจเต้นแรงกับเพศ เดียวกันแม่งเอ๊ย ไอ้ห่านี่มันจะรู้มั้ยว่ามันทำให้กระบวนการทาง ความคิดของผมสับสน
* อ้าย
"กูไม่รู้"
ผมยกมือปิดหูทั้งสองข้างแล้วส่ายหน้ารัวๆ
วันนี้พี่ยังไม่เชื่อไขผมก็ไม่เป็นไร ผมรอได้ แต่ช่วยมองเห็น
ความพยายามของผมบ้าง
แม่ง
นี่หวั่นไหวกับเพศผู้จริงๆ เหรอวะ!
ผมถอนหายใจแรงๆ พยายามไม่สบสายตากับดวงตาของมัน แววตาของไอ้แสนคือหลุมพราง ใครก็ตามที่สบตากับมันอาจตกหลุม รักเจ้าตัวได้ไม่ยาก
น่ากลัว
น่ากลัวทีหัวใจผมเริ่มหวั่นไหวกับสายตาของมันซะแล้ว
- อ้ายคนแมน แสนคนห่าม ~
"น้องธร น้องแสน"
ผมยิ้มเขินๆ ตอนที่โผล่หน้าขึ้นมาบนรถบัสของปีสี่ แล้วพี่ๆ ต่างพากันส่งเสียงทักทาย เรื่องของเรื่องคือเสาร์อาทิตย์นี้มีกิจกรรม รับน้องที่ต่างจังหวัด แล้วบังเอิญว่าไอ้คุณชายตื่นสายอย่างไอ้แสนตัน มาสายเอาวันที่รวมพลออกเดินทาง แน่นอนว่าพวกเราเกือบมาไม่ทัน ล้อหมุน รถบัสสามคันของปีหนึ่งยังเต็มทุกที่นั่ง ผมกับมันเลยต้อง ระเห็จมาขออาศัยรถบัสของปีสี่ที่มีที่นั่งเหลือ เนื่องจากประชากรปีนี้มี จำนวนบางตากว่าทุกปี
ผมเพิ่ง รู้ว่าตัวเองเป็นที่รู้จักของ ๆ มากมายขนาดนี้ ส่วนหนึ่ง คงเพราะไอ้หาแผนที่อุดมือผมลุกขึ้นแจวในงานวอร์มอัพวันนั้น นั่นแหละ หน้าผมยังมีประเด็นเรื่องบอร์ดรุ่นกับนายกสโมฯ อีก บุญ เท่าไหร่แล้ว ไม่ถูก ๆ หมายหัว ไม่อย่างนั้นผมคง เคว้ง หรือถูกตัด สายแน่นอน
ผมนึกว่า "คุณชอบผม” ซะอีก
ล็อกเป้าแล้วเข้าจู่โจม
แต่แล้วจู่ๆ บทสนทนาเมื่อวันก่อนนั้นก็ตั้งท้องขึ้นมาในหัว มี ผลให้ใบหน้าของผมร้อนผ่าว แก้มทั้งสองข้างแดง ด้วยความขัดเขิน ทุกครั้งที่เผลอนึกถึงเหตุการณ์ในวันนั้น ไม่รู้ว่าผมผ่านเรื่องที่น่าอาย นั้นมาได้อย่างไรรู้ตัวอีกทีก็มาทรุดตัวนั่งกอดเข่าอยู่กลางคอนโดฯ จนกระทั่งไอ้แสนโผล่กลับมาที่ห้องนั่นแหละ ผมถึงได้สติว่าตัวเอง ใจลอยไปถึงไหนต่อไหน
มีน้องปีหนึ่งสองคนนั่งรถคันนี้ด้วยนะ
พี่ปีสี่คนหนึ่งซึ่งเป็นหนึ่งในคณะกรรมการสโมสรนิสิตบอกกับพี่ ฟ้าผมเลยก้มหน้างุดๆ เพราะไม่อาจสู้ดวงตาคมที่มองมาด้วยสายตากึ่ง เอ็นดูกึ่งล้อเลียน
ขึ้นรถมันมีอะไรน่ามองวะธร
พี่โดมกับพี่พีทที่เดินตามพี่ฟ้ามาติดๆ สะกิดถามเมื่อเห็นผม
ก้มหน้าอยู่แบบนั้น
"แหะๆ” ผมยิ้มแหย
"น้องมันไม่อยากมองหน้าถึงไงไอ้โตม
"อ้าว ไอ้หาพีท”
พี่โดมถลึงตาใส่เพื่อนก่อนจะหันมาถามผมเสียงเขียว
"มึงไม่อยากมองหน้าพวกกูเหรอวะ"
"เปล่า "
"แล้วถึงเป็นอะไรวะ"
"ไม่ใช่ไม่อยากมองครับ..."
แต่กลัวว่าถ้าบังเอิญมองไปเห็น พี่ แล้วจะใจสั่น ประโยคนี้ได้ แต่พูดในใจเมื่อฟฟ้าหันมาทางนี้แล้วเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม
ถ้าคุณไม่อยากมองหน้าไอ้สองตัวนี้ มองหน้าผมก็ได้
พี่ฟ้าพูดยิ้มๆ ไม่ใช่ยิ้มธรรมดาด้วย เลือกมองหน้าผมแล้วยิ้ม ชะกว้างเลยแม่ง
"แต่มีข้อแม้นะ มองหน้าผมแล้ว ช่วยยิ้มตอบด้วย
ฟ้าแม่ง!
ผมอ้าปากพะงาบๆ ดอนที่คนตัวโตและออกไป ทิ้งให้พี่โดมกับ พี่พีทมองหน้าผมสลับกับแผ่นหลังพี่ฟ้าแล้วยิ้มกริ่ม นั่นทำให้ผมต้อง มหน้ากัดริมฝีปากด้วยความเช่นอาย
แม่ง หน้าไหม้ไปหมดแล้วโว้ย!
พอนับประชากรบนรถเสร็จสิ้นแล้ว ไม่นานหลังจากนั้นล้อก็ หมุนระหว่างนั้นมีเสียงเพลงเปิดคลอเบาๆ กล่อมให้คนบนรถพากัน หลับใหลเวลาเกือบสองชั่วโมงที่รถบัลพาแวะปั้มเพียงครั้งเดียวก่อนจะ ถึงที่หมายซึ่งเป็นบ้านพักเชิงอนุรักษ์จำนวนหลายไร่ที่อยู่ติดริมทะเล มี รั้วรอบขอบชิดและแบ่งสัดส่วนอย่างชัดเจนปรากฏอยู่เบื้องหน้า พวกเราทุกคนถูกปลุกให้ตื่นและทยอยลงจากรถหลังจากที่รถจอด สนิทอยู่หน้าอาคารใหญ่หลังหนึ่งซึ่งน่าจะเป็นหอนอน เมื่อเดินเข้าไปก็ พบโถงกลางชั้นล่างเป็นหอประชุมแบบเปิดโล่ง ส่วนของห้องพักมีการ แบ่งเป็นโซนนอนฝั่งชายและหญิงอย่างชัดเจน
หลังจากนั้นพี่ๆ สั่งให้แยกย้ายกันเอาสัมภาระไปเก็บก่อนจะ เรียกปีหนึ่งรวมตัวกันที่โถงกลางเพื่อร่วมกิจกรรมสันทนาการ โดย แบ่งกลุ่มปีหนึ่งเป็นสีสีละแปดถึงสิบคนเพื่อทำกิจกรรมตามฐานของ แต่ละชั้นปี โชคดีว่าผมได้อยู่สีชมพู กลุ่มเดียวกับไอ้แสน
กิจกรรมฐานรับน้องมีทั้งหมดฐาน โดยเรียงจากฐานปีสองถึง
ฐานพี่เก่าที่จบการศึกษาไปแล้ว นั่นทำให้ผมเพิ่งสังเกตว่ามีรุ่นพี่หลาย คนทั้งหน้าเก่าหน้าใหม่เต็มไปหมด และการทำกิจกรรมฐานนี่แหละที่ ทําให้ผมหายใจหายคอคล่องขึ้น ไม่ต้องเผชิญหน้ากับใครตรงๆ เนื่องจากฝ่ายนั้นเป็นนายกสโมงทำให้ต้องวิ่งวุ่นประสานงานส่วนอื่นๆ จนหัวหมุน นั่นจึงเป็นโชคดีของผมจนกระทั่งถึงฐานสี่
ไอ้แสนหน้ายิ้มระรื่นตอนที่เห็นพี่อ้ายเป็นหนึ่งในพี่ฐานที่ประจำ อยู่ด้านหน้า ขณะที่ผมเดินก้มหน้าพยายามไม่สบตาใคร ฐานปี ดูเหมือนจะหนักหนากว่าทุกฐานเพราะต้องเดินลุยโคลนไปตามเชือกที่ เป็นแถวให้คล้ายๆ กับฐานผจญภัยตอนเข้าค่ายลูกเสือ แต่ ตลอดทางจะมีพี่ๆ ปี คอยดูแลตลอด จนกลุ่มผมสามารถเดินลุยโคลน ไปถึงริมน้ำที่มีแม่น้ำสายเล็กๆ ไหลผ่านได้
ยินดีต้อนรับปีหนึ่งสู่ฐาน สาบานรัก' ของปีล
ฐานสาบานรัก!
ผมกับไอ้แสนลอบสบตากัน
กติกาไม่มีอะไรมาก แค่ให้ปีหนึ่งจับคู่กันไปสาบานรัก ตรงกลางแม่น้ำนั่น
แม่น้ำที่ว่ามีความลึกประมาณเอว และมีพี่ปีสี่ผู้ชายยืนเกี่ยว แขนกั้นเป็นแนวยาวเกือบยี่สิบคนเพื่อป้องกันน้องๆ ไม่ให้เป็นอันตราย หรือเดินลงไปในจุดที่ลึก
"มันจะง่ายขนาดนั้นเลยเหรอวะ"
ไอ้แสนกระซิบข้างหูผม เพราะฐานปีสองและปีสามที่ผ่านมา แบ่งต้องล้มลุกคลุกคลานจนเปียกปอนและเลอะโคลนไปทั้งตัว กว่าจะ ผ่านมาได้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย นั่นทําให้พวกผมไม่อาจไว้ใจความง่ายของ ฐานปีสี่ตามที่พี่ๆ พูดเลย
“เอ้า ปีหนึ่งจับคู่กัน อ้อ จับคู่เพศตรงข้ามนะโว้ย"
พี่โตมตะโกนสั่ง ผมกับไอ้แสนหาหน้าตื่นๆ ก่อนจะพยายาม
มองหาเพื่อนผู้หญิงในกลุ่ม แต่ผมคงดวงซวยเพราะเพื่อนๆ ต่างจับคู่ กันได้ครบหมดแล้ว กลายเป็นเหลือแค่ผมคนเดียวที่เป็นเศษ
"น้องเหลือเศษคนหนึ่ง
"เดี๋ยวกูหาคู่ให้
ผมไม่ไว้ใจรอยยิ้มพีพีทเลยว่ะ
"รอคู่มึงแป๊บนึงนะธร
พี่โดมพูดขำๆ ก่อนหันไปหาพวกที่เหลือแล้วให้แต่ละคู่ยื่นมือ ออกมาเพื่อมัดข้อมือติดกันข้างหนึ่งแล้วค่อยจัดแถวให้เดินลงน้ำทีละคู่
"ไอ้น้องผู้ชาย"
"ครับ "
"มึงเคยใส่กางเกงในแบบซูเปอร์แมนรึเปล่าวะ
"ไม่เคย
"งั้นเคยซะ"
พี่ปีสี่พากันหัวเราะร่วนเมื่อเพื่อนผู้ชายคนหนึ่งของผมต้องถอด กางเกงในใต้น้ำมาสวมทับกางเกงด้านนอกเหมือนซูเปอร์แมน แน่นอน ว่าเพื่อนผู้หญิงที่มันได้แต่ก้มหน้างุดๆ เพราะมือที่ถูกมัดติดกันทำให้ การแปลงโฉมทุลักทุเลไปอีก หลังจากนั้นพวกพี่ๆ ก็แจกรูปที่จุดไห แล้วให้คนละดอก
“ว่าตาม "
พี่พีทน่าท่อง
"ว่าตามก
“อันนี้จึงไม่ต้องพูดตามกูก็ได้โว้ย
เสียงพี่ๆ หัวเราะขบขันขณะที่ปีหนึ่งเกาหัวแก้เก้อ
ขอตั้งสัตย์กลางธารา ให้คงคาเป็นพยาน อธิษฐานเปล่งวาจา เป็นศิษยาร่วมสถาบัน"
ถ้อยคำนั้นดังกึกก้องไปทั่วลำน้ำ พอปีหนึ่งคู่แรกท่องเสร็จพี่ๆ ก็เอาธูปไปปักที่ริมน้ำ ก่อนจะจูงน้องขึ้นจากน้ำแล้วเอามาลัยดอกหญ้า คล้องคอให้แต่ละคน เสร็จแล้วพี่ปีสี่ผู้หญิงก็รีบเอาผ้ามาห่อตัวน้องที่ เปีย ก่อนจะพาไปนั่งพัก ผมมองภาพนั้นแล้วเผลออมยิ้ม
พิธีการตรงหน้ามันออกจะประหลาดสักหน่อย เพราะมองเผินๆ มันดูไม่เป็นทางการ แต่กลับแฝงไปด้วยความอบอุ่นของสัมพันธ์พี่น้อง ผมสังเกตสีหน้าแววตาของพี่แต่ละคนดูมีความสุขมากๆ เวลาที่มอง มายังพวกเราปีหนึ่ง
"ธร"
แรงสะกิด บ่าทําให้ผมหันขวับไปหา อ้าย
"ครับ?"
"คู่เรามาแล้ว"
ผมมองเลยหัวไหล่พี่อ้ายไปก่อนจะทำตาโตเมื่อใครคนหนึ่งเดิน งงๆมาตามแรงจูงของเพื่อนๆ ปี
"อะไรของพวกมึงวะ” พี่ฟ้าใน
"เอาน่า ช่วยหน่อย น้องมันไม่มีคู่
"พวกมึงมีกันตั้งเยอะตั้งแยะ ไม่จับคู่น้องมันไปล่ะวะ
" งนั่นแหละ เหมาะแล้ว
ฟ้าทําหน้าปุยนิดๆ ก่อนจะชะงักเมื่อหันมาสบตากับผม
โอ้ย หัวใจเต้นแรงมากๆ
"นั่นไงคู่ "
เสียงพี่โดมกระซิบข้างหูทําเอาผมหน้าร้อนวูบวาบ
การปรากฏตัวของนายกสโมฯ เรียกความสนใจจากบรรดาพี่ๆ ปีสี่คนอื่นได้ไม่น้อย ผมหน้าแดงสลับซีดซ้ำยังทำหน้าไม่ถูกตอนที่พี่ฟ้า ขยับมายืนเคียงข้าง ในหูอื้ออึงได้ยินแต่เสียงร้องแซวดังมาจากรอบทิศ
"งัดข้อมือ
ผมได้แต่ยืนนิ่งให้รุ่นพี่คว้ามือข้างหนึ่งไปมัดติดกับข้อมือของพี่ ฟ้า จังหวะหน่งผมลอบสบตากับคนข้างกายจึงเห็นว่าดวงตาคมของฝ่าย นั้นกำลังมองผมอยู่ ผมสะดุ้งวาบแล้วรีบก้มหน้างุดๆ
"พื้นดินข้างล่างมันน่ามองกว่าหน้าผมเหรอ"
ผมส่ายหน้าหรือเพราะขัดเขินจนเผลอบบริมฝีปากตัวเอง
"งั้นเงยหน้าขึ้นสิ"
"พี่ฟ้า"
ผมครางเสียงแผ่ว ควบคุมตัวเองไม่อยู่ ทั้งเนื้อทั้งตัวสั่นเทาไป
"ธร"
"อย่าแกล้ง
แรงสะกิด บ่าทําให้ผมหันขวับไปหา อ้าย
"ครับ?"
"คู่เรามาแล้ว"
ผมมองเลยหัวไหล่พี่อ้ายไปก่อนจะทำตาโตเมื่อใครคนหนึ่งเดิน งงๆมาตามแรงจูงของเพื่อนๆ ปี
"อะไรของพวกมึงวะ” พี่ฟ้าใน
"เอาน่า ช่วยหน่อย น้องมันไม่มีคู่
"พวกมึงมีกันตั้งเยอะตั้งแยะ ไม่จับคู่น้องมันไปล่ะวะ
" งนั่นแหละ เหมาะแล้ว
ฟ้าทําหน้าปุยนิดๆ ก่อนจะชะงักเมื่อหันมาสบตากับผม
โอ้ย หัวใจเต้นแรงมากๆ
"นั่นไงคู่ "
เสียงพี่โดมกระซิบข้างหูทําเอาผมหน้าร้อนวูบวาบ
การปรากฏตัวของนายกสโมฯ เรียกความสนใจจากบรรดาพี่ๆ ปีสี่คนอื่นได้ไม่น้อย ผมหน้าแดงสลับซีดซ้ำยังทำหน้าไม่ถูกตอนที่พี่ฟ้า ขยับมายืนเคียงข้าง ในหูอื้ออึงได้ยินแต่เสียงร้องแซวดังมาจากรอบทิศ
"งัดข้อมือ
ผมได้แต่ยืนนิ่งให้รุ่นพี่คว้ามือข้างหนึ่งไปมัดติดกับข้อมือของพี่ ฟ้า จังหวะหน่งผมลอบสบตากับคนข้างกายจึงเห็นว่าดวงตาคมของฝ่าย นั้นกำลังมองผมอยู่ ผมสะดุ้งวาบแล้วรีบก้มหน้างุดๆ
"พื้นดินข้างล่างมันน่ามองกว่าหน้าผมเหรอ"
ผมส่ายหน้าหรือเพราะขัดเขินจนเผลอบบริมฝีปากตัวเอง
"งั้นเงยหน้าขึ้นสิ"
"พี่ฟ้า"
ผมครางเสียงแผ่ว ควบคุมตัวเองไม่อยู่ ทั้งเนื้อทั้งตัวสั่นเทาไป
"ธร"
"อย่าแกล้ง
พี่ฟ้าแกล้งผม"
ฮือ ไม่ไหวแล้วหัวใจ
“จับมือสิ ผมจะพาลงน้ำ
ผมเหมือนคนสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เดินตามแรงจูงของพี่ฟ้า ด้อยๆจนกระทั่งเราทั้งคู่ไปหยุดอยู่กลางน้ำ จังหวะที่พี่ฟ้าหันไปคุยกับพี่ พีท พี่โดมซึ่งทำหน้าที่ส่งรูปก็โน้มตัวมากระซิบบอกบางสิ่งที่ทําให้ผม
สายหน้าทันที
"ไม่เอา "
"สมุดเชียร์หน้าสองบรรทัดเกือบสุดท้าย"
แม่งงง
พี่ฟ้าทําหน้าสงสัยที่เห็นผมมองค้อนพี่โดมตาปะหลับปะเหลือก
"ไอ้โดมมันพูดอะไร"
"ปะ...เปล่าครับ"
"แน่ใจเหรอ"
ผมไม่ตอบได้แต่ก้มหน้านิ่ง
"ไอ้ฟ้านน้องสาบานรักสิวะ ไอ้ธรอย่าลืมที่กูบอก
พี่ฟ้าน่าท่องกลอนนั้นเสร็จ ผมก็กลั้นใจยกมือพนมแล้วท่องคํา
พี่โอมยัดเยียดให้
"ขอตั้งสัตย์กลางธารา ให้คงคาเป็นพยาน อธิษฐาน เปล่งวาจา...ให้ 'พี่ฟ้า' รักแค่ 'ธร" "
เร้ดดดดดดด"
"อ้าวววววว" "ได้กัน! "
y
"กรีด ด ด "
ผมก้มหน้าและยกมือทั้งสองข้างขึ้นปิดหน้าเพื่อบดบังใบหน้า แตง เพราะเสียงโห่แซว ดังมาจากรอบ ค
"ไอ้ธร ปี คนนี้รึเปล่าที่ทำให้มึงลุกขึ้นมาแจวอ่ะ"
แม่งงง
ผมหันขวับมองคนข้างกาย ชาออกมาอย่างไม่สนภาพลักษณ์
พี่ฟ้ายิ้มให้ผมตาพราว
ไม่ไหวๆ
อัตราการเต้นของหัวใจสูงเกินไปแล้ว
“ทำไมไม่เตี๊ยมผมก่อนล่ะ ผมจะได้แปลงกลอนท่อนสุดท้าย
พี่ฟ้าพูดจาๆ
"พี่ฟ้าแม่ง"
"มึงจะเปลี่ยนกลอนว่าอะไรวะไอ้ฟ้า
พี่โดมเสนอหน้าเข้ามา
"อธิษฐานเปล่งวาจา ให้ ตัวช้า รักแค่ "ธร ชะเอิงเอย
พี่พีทโพล่งขึ้นแล้วแต่งกลอนบทสุดท้ายให้เสร็จสรรพ
สังเอ๊ย! แล้วพี่ฟ้าจะยิ้มทำไมวะ ยิ้มกว้างด้วย แล้วทำไมไม่พูด หรือปฏิเสธอะไรเลยนอกจากยิ้มอยู่แบบนั้น
เป็นเว้ย เขินเหี้ยๆ
- Get link
- X
- Other Apps
Comments
Post a Comment